สิทธิบัตรทองปี 2568 ทำอะไรได้บ้าง? เช็กที่นี่

 

บัตรทอง หรือบัตร 30 บาท จริง ๆ แล้วมีชื่อเต็มว่า บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ออกให้คนไทยทุกคนได้ใช้รักษาพยาบาลฟรี ยกเว้นในคนที่มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นอย่างสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ ก็จะไม่ได้ถือบัตรทอง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวในการเข้ารักษาที่สถานพยาบาลได้ทันที

บัตรทองทำฟันฟรี

ผู้ที่ถือบัตรทองสามารถเข้ารับบริการทันตกรรมได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน การให้ฟลูออไรด์เสริมในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคฟันผุ การรักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม การเคลือบหลุมร่องฟัน การผ่าฟันคุด ใส่เพดานเทียมเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ และการทำฟันปลอมฐานพลาสติก ก็สามารถทำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย

ผู้ถือสิทธิ์บัตรทอง!! ทำฟันคลินิกเอกชน ฟรี!! 3ครั้ง/ปี เช็กคลินิกที่เข้าร่วมที่นี่

สิทธิบัตรทองสามารถใช้รักษาอาการเจ็บป่วยและโรคต่างๆทั่วไป ได้ฟรี

เช่น ไอ เจ็บคอ ไข้หวัด ท้องเสีย ไปจนถึงโรคเรื้อรัง หรือโรคเฉพาะทางที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคเอชไอวี ฯลฯ

ทั้งนี้ หากผู้ถือบัตรทองมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ อาทิ ไอ เจ็บคอ เจ็บกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ท้องเสีย ฯลฯ ก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล โดยสามารถเข้าไปรับยาได้เองที่ “ร้านยาคุณภาพของฉัน” ที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช. ซึ่งเภสัชกรจะคัดกรองอาการเบื้องต้นพร้อมจ่ายยาให้ และติดตามอาการของผู้ป่วยในวันที่ 3 ของการจ่ายยา
นอกจากนี้ในกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ป่วยด้วย 42 กลุ่มโรคและอาการ เช่น ข้อเสื่อมหลายข้อ ตาแดงจากไวรัส เนื้อเยื่ออักเสบ ปวดศีรษะ อาหารเป็นพิษ โควิด 19 กลุ่มสีเขียว ฯลฯ ยังสามารถใช้บริการพบแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน และส่งยาให้ถึงบ้าน

การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เช่น

  • การตรวจคัดกรองเพื่อหาภาวะเสี่ยง เช่น คัดกรองมะเร็งปากมดลูก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมัน
  • การให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลสุขภาพ เช่น การวางแผนครอบครัวเรื่องการคุมกำเนิด รับยาคุมและถุงยางอนามัยฟรี การเลิกบุหรี่
  • การสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น การฉีดวัคซีน การให้ยาบำรุง การเคลือบฟลูออไรด์
  • ค่ายา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตามกรอบบัญชียาหลัก และยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง
  • ค่าอาหารและค่าห้องสามัญระหว่างพักรักษาตัวในหน่วยบริการ
  • บริการรถพยาบาล หรือบริการพาหนะรับ-ส่งผู้ป่วยและผู้ทุพพลภาพ
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ ทั้งกายภาพบำบัด จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด การฟื้นฟูการได้ยิน ฟื้นฟูการมองเห็น รวมไปถึงบริการอุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้พิการตามเกณฑ์ที่กำหนด
  • บริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคทางศิลปะ
  • การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาและสารเสพติด ยกเว้นการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดที่มีกำหนดเกี่ยวกับการให้บริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
  • การบริการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุการประสบภัยจากรถ ยกเว้นการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
  • บริการสาธารณสุขอื่นที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนดเพิ่มเติม
  • ขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล
  • ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีคะแนนความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวัน (ADL) ไม่เกิน 6 คะแนน หรือผู้ที่มีปัญหากลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ ตามผลการประเมินหรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ มีสิทธิขอรับผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับการขับถ่าย
  • ตรวจวินิจฉัยโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Sleep test) และการรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP)
  • อุปกรณ์เท้าเทียมไดนามิก เพื่อผู้พิการขาขาด
  • เจาะเลือด-ตรวจแล็บใกล้บ้าน ครอบคลุม 24 รายการ สำหรับผู้ป่วยนอกที่ป่วยโรคเรื้อรังที่มีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากหน่วยบริการที่ดูแล สามารถเข้ารับบริการตรวจ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ใกล้บ้านได้
  • บริการเจาะเลือดถึงบ้านสำหรับผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุ
  • ล้างไตด้วยเครื่องอัตโนมัติ (APD)
สปสช. ชวนประชาชนไทยทุกคนทุกสิทธิหลักประกันสุขภาพ มาใช้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (ฟรี)

บัตรทองใช้สิทธิคลอดบุตร

คุณแม่สามารถเข้ารับการตรวจ ฝากครรภ์ และทำคลอดได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมทั้งยังได้รับสิทธิการบริบาลทารกแรกเกิด

กรณีป่วยเล็กน้อย หรือเจ็บป่วยทั่วไป

สามารถเข้ารักษาได้ที่
1. หน่วยบริการประจำ
2. หน่วยบริการปฐมภูมิ (ได้ทุกแห่ง) หรือสังเกตจากโลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่
– กทม. รับการรักษาได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือคลินิกชุมชนอบอุ่น
– ต่างจังหวัด รับการรักษาได้ที่ รพ.สต./สถานีอนามัย/ศูนย์สุขภาพชุมชน/โรงพยาบาลรัฐประจำอำเภอ/จังหวัด (สังกัดกระทรวงสาธารณสุข)
3. ร้านยาหรือคลินิกเอกชน

กรณีป่วยมาก

สามารถเข้ารักษาได้ที่
1. โรงพยาบาลประจำของผู้ป่วย หรือ
2. ร้านยาหรือคลินิกเอกชน โดยหากมีความจำเป็นต้องรักษาในระดับที่สูงขึ้นก็จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเครือข่ายด้วยระบบส่งต่อผู้ป่วยแบบอิเล็กทรอนิกส์

กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน

  • อุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ไม่ถึงขั้นวิกฤต สามารถรักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง หรือโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช.
  • เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตถึงแก่ชีวิต เช่น หมดสติ หายใจไม่ออก เจ็บหน้าอกรุนแรง สามารถรักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่ใกล้ที่สุด (ใช้สิทธิ UCEP)

บัตรทอง ย้ายโรงพยาบาลได้

ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลหรือหน่วยบริการประจำตัวได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

  1. แอปพลิเคชัน สปสช.
  2. Line @nhso
  3. นำเอกสารที่ใช้ในการสมัครบัตรทองไปติดต่อขอย้ายสถานพยาบาลด้วยตนเองได้ที่

• ต่างจังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), สถานีอนามัย, ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง, โรงพยาบาลของรัฐ

• กรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขต หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชั้น 2 อาคารบี (ทิศตะวันตก) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ในวัน-เวลาราชการ หรือโทร. สายด่วน 1330

เมื่อย้ายสิทธิบัตรทอง จะสามารถใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

บัตรทอง ใครมีสิทธิได้บ้าง

คนที่จะมีบัตรทองต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • บุคคลสัญชาติไทยตั้งแต่แรกเกิด ที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
  • บุคคลที่ไม่มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลอื่นใดที่รัฐจัดให้ เช่น
  • บุตรข้าราชการที่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีขึ้นไป หรือสมรส) และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ
  • บุตรข้าราชการคนที่ 4 ขึ้นไป และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ เช่น สิทธิข้าราชการคุ้มครองบุตรเพียง 3 คน
  • ผู้ประกันตนที่ขาดการส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม (หมดสิทธิประกันสังคม)
  • ข้าราชการที่เกษียณอายุหรือออกจากราชการโดยมิได้รับบำนาญ
  • ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และไม่ได้เป็นผู้ประกันตน

 

หากใครมีข้อสงสัยในเรื่องบัตรทองนอกเหนือไปจากข้างต้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับในพื้นที่ กทม. สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1330 กด 6


Booking.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ