แนวข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย 2568 มีแบบทดสอบใบขับขี่เสมือนจริงให้ลองทำ

 

ข้อสอบใบขับขี่ทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 10 หมวด ได้แก่

  1. ข้อสอบใบขับขี่หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
  2. ข้อสอบใบขับขี่หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
  3. ข้อสอบใบขับขี่หมวดสัญญาณ
  4. ข้อสอบใบขับขี่หมวดเครื่องหมายพื้นทาง
  5. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายบังคับ
  6. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายเตือน
  7. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายแนะนำ
  8. ข้อสอบใบขับขี่หมวดมารยาทและจิตสำนึก
  9. ข้อสอบใบขับขี่หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
  10. ข้อสอบใบขับขี่หมวดการบำรุงรักษารถ

สอบใบขับขี่เสมือนจริงได้ที่

safedrivedlt.com

safedrivedlt.com  มีรายละเอียดดังนี้

  • จำนวน 50 ข้อ
  • ผ่านเกณฑ์ 90% หรือ 45 ข้อ
  • จับเวลา 60 นาที
  • เลือกฝึกทำข้อสอบตามหมวดหมู่ได้ทุกหมวดหมู ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์อุบัติเหตุ กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก สัญญาณ เครื่องหมายบนพื้นทาง-ขอบทาง ป้ายบังคับ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ การบำรุงรักษารถ การขับรถอย่างปลอดภัย จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถ

thaidriveexam.com

thaidriveexam.com แนวข้อสอบเหมือนกับที่ขนส่งออกสอบ สามารถทำวนไปจนกว่าจะได้ 100 คะแนน มีครบทุกหมวด ได้แก่ ป้ายและเครื่องหมายจราจร, กฏหมายจราจร, การขับขี่และการดูแลรักษา, การคาดการณ์อุบัติเหตุ และข้อสอบแบบสุ่ม 50 ข้อ

สอบแก้ตัวได้กี่ครั้ง?

ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในระยะไม่เกิน 90 วันนับตั้งแต่วันอบรม

 

ตัวอย่างข้อสอบใบขับขี่ 2568 พร้อมเฉลย

1.ข้อสอบใบขับขี่ หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์

1. ในขณะขับรถผู้ขับขี่ต้องมีเอกสารใดใช้คู่กับใบอนุญาตขับรถ

  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ
  • บัตรประกนัสังคม

2. ผู้ขับรถกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบกและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจรต้องไปติดต่อชำระค่าปรับภายในกี่วัน

  • 10 วัน
  • 7 วัน
  • 15 วัน
  • 30 วัน

3. เมื่อใบอนุญาตขับรถสูญหายหรือชำรุดต้องยื่นขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน

  • 20 วัน
  • 30 วัน
  • 15 วัน
  • 45 วัน

4. ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ มีความผิดอย่างไร

  • จำคุกไม่เกิน 1 ปี
  • จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

5. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุกี่ปี

  • 1 ปี
  • 2 ปี
  • 3 ปี
  • 4 ปี

6. การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน

  • 7 วัน
  • 20 วัน
  • 15 วัน
  • 10 วัน

7. การต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) สามารถต่อก่อนล่วงหน้าได้เท่าใด

  • 6 เดือน
  • 4 เดือน
  • 3 เดือน
  • 5 เดือน

8. รถยนต์ที่มีอายุครบกี่ปีต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี

  • 3 ปี
  • 5 ปี
  • 7 ปี
  • 6 ปี

9. รถจักรยานยนต์ที่มีอายุครบกี่ปีต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี

  • 2 ปี
  • 5 ปี
  • 1 ปี
  • 3 ปี

10. ผู้ขับรถใช้ใบอนุญาตขับรถที่สิ้นอายุมีความผิดอย่างไร

  • ปรับไม่เกินห้าพันบาท
  • จำคุกไม่เกินสามเดือน
  • จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน
  • ปรับไม่เกินสองพันบาท

11. การโอนรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน

  • 30 วัน
  • 45 วัน
  • 15 วัน
  • 20 วัน

12. การย้ายรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน

  • 30 วัน
  • 20 วัน
  • 25 วัน
  • 15 วัน

13. รถที่ไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่มเท่าใด

  • ร้อยละ 20 ต่อปี
  • ร้อยละ 10 ต่อเดือน
  • ร้อยละ 1 ต่อปี
  • ร้อยละ 1 ต่อเดือน

14. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุกี่ปี

  • 3 ปี
  • 1 ปี
  • 5 ปี
  • 2 ปี

15. เมื่อใบอนุญาตขับรถสูญหายหรือชำรุดต้องยื่นขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน

  • 45 วัน
  • 30 วัน
  • 15 วัน
  • 20 วัน

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก

1.การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
  • เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
  • หากไม่มีสัญญาณไฟจราจรให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
  • เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ

2. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
  • เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร
  • หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว
  • เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว

3. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • หยุดทับเส้นแนวหยุด
  • หยุดหลังเส้นแนวหยุด
  • หยุดเลยเส้นแนวหยุด
  • หยุดเลยป้ายหยุด

4. บริเวณใดห้ามแซง

  • ทางตรง
  • ทางที่ปลอดภัย
  • ทางโล่ง
  • ทางโค้งรัศมีแคบ

5. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร

  • ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร
  • ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร
  • ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
  • ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร

6. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร

  • ไม่น้อยกว่า 3 เมตร
  • ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
  • ไม่น้อยกว่า 1 เมตร
  • ไม่น้อยกว่า 2 เมตร

7. การขับรถตามข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้อง

  • ขับรถใช้ความเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
  • ขับรถคร่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ
  • แซงรถในอุโมงค์
  • ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร

8. การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้

  • เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา
  • แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน
  • แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว
  • แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายเมื่ออยู่ในเขตชุมชน

9. ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง

  • ผ่านทางแยก
  • เปิดได้ตลอดเวลา
  • มีหมอก
  • รถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ

10. ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ให้ชะลอความเร็วและขับรถชิดด้านซ้าย
  • ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน
  • แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้
  • ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปได้

11. ผู้ขับขี่ต้องการกลับรถต้องปฏิบัติอย่างไร

  • กลับรถที่บริเวณเส้นทะแยงเหลือง
  • กลับรถช่องทางไหนก็ได้
  • กลับรถในบริเวณที่คับขัน
  • เข้าช่องทางให้ถูกต้องและให้กลับรถได้เมื่อปลอดภัย   

12. บริเวณใดจอดรถได้

  • ในอุโมงค์
  • บริเวณที่มีช่องจอดรถ
  • ทางร่วมทางแยก
  • ที่มีป้ายห้ามหยุดรถ

13. บริเวณใดแซงได้

  • ทางโค้งรัศมีแคบ
  • บนพื้นทางที่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้
  • ทางร่วมทางแยก
  • สะพานเดินรถทางเดียว

13. ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้

  • ทางเดินรถกว้างมาก
  • ทางเดินรถมีน้ำท่วมขัง
  • ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง
  • ไม่มีรถสวนทางมา

14. เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่างไร

  • ไม่มีผล เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด
  • มีผลให้เป็นฝ่ายถูก
  • จะได้รับการกันไว้เป็นพยาน
  • ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด

15. ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามข้อใดไม่ถูกต้อง

  • ลดความเร็วเมื่อถึงวงเวียน
  • ลดความเร็วเมื่อถึงที่คับขัน
  • ลดความเร็วเมื่อเห็นคนกำลังข้ามทาง
  • จอดรถบริเวณทางร่วมทางแยก

16. บริเวณทางร่วมทางแยกและมีเครื่องหมายห้ามกลับรถ แต่เจ้าพนักงานจราจรอนุญาตให้กลับรถได้ผู้ขับขี่ ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • กลับรถได้ถ้าไม่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ
  • กลับรถไม่ได้
  • ให้กลับรถได้ตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร
  • กลับรถได้ถ้าไม่ใช่ทางร่วมทางแยก

17. เมื่อถึงทางรถไฟและมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ให้เสียงสัญญาณแตรเตือนและขับผ่านไปได้
  • หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร
  • หยุดรอสัญญาณไฟและเปิดไฟฉุกเฉิน
  • ขับรถผ่านไปโดยเร็ว

18. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะเท่าใด

  • 80 เมตร
  • 90 เมตร
  • 60 เมตร
  • 70 เมตร

19. ผู้ใดได้รับยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์

  • ภิกษุ สามเณร
  • คนขับรถ
  • เด็ก
  • คนโดยสาร

20. เขตปลอดภัย หมายความว่าอย่างไร

  • พื้นที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้ผู้ขับขี่เห็นว่าปลอดภัยขับต่อไปได้
  • เขตที่คนเดินเท้าสามารถข้ามทางได้โดยไม่ต้องหยุดรอ
  • พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป
  • เขตที่ผู้ขับขี่สามารถนำรถผ่านเข้าไปได้

21. ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด

  • ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  • ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  • ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  • ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

22. บริเวณใดสามารถกลับรถได้

  • ทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ
  • บริเวณบนสะพาน
  • ในระยะเกินกว่า 100 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน
  • เขตปลอดภัย

23. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วไม่เกินเท่าไร (สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล)

  • ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

24. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร

  • เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
  • เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
  • หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
  • ให้รถที่มีอยู่ในทางร่วมทางแยกขับผ่านไปก่อน

25. เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย “เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด” ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

  • หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวซ้ายไปได้
  • หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป
  • เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
  • ลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที

26. ขณะขับรถตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีโทษอย่างไร

  • จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 50,000 บาท
  • ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
  • ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

27. รถที่มีใช้ความเร็วต่ำ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ขับรถชิดขอบทางด้านขวา
  • ขับรถชิดขอบทางด้านซ้าย
  • ขับรถได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
  • ขับรถที่บริเวณไหล่ทาง

28. ในการบรรทุกสิ่งของ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหน้าไม่เกิน 2.50 เมตร
  • บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.50 เมตร
  • บรรทุกสูงโดยวัดจากสิ่งของที่บรรทุกได้เกิน 5 เมตร
  • บรรทุกได้กว้างกว่าความกว้างของตัวรถข้างละ 1 เมตร

29. ก่อนจะเปลี่ยนช่องทางหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร

  • แซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรกทันที
  • รีบเปลี่ยนช่องทางโดยเร็ว
  • รีบเร่งเครื่องแซงโดยเร็ว
  • ต้องให้สัญญาณให้รถคันอื่นรับรู้

30. ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป
  • ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด
  • ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด
  • ต้องขับรถคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดสัญญาณ

1. บริเวณใดใช้สัญญาณเสียงแตรได้

  • สวนสาธารณะ//โรงพยาบาล
  • สถานที่ราชการ
  • โรงเรียน
  • สวนสาธารณะ

2. สัญญาณจราจรไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามผู้ขับขี่ขับรถอย่างไร

  • ขับรถในช่องเดินรถนั้น
  • หยุดรถในช่องเดินรถนั้น
  • หยุดและจอดรถในช่องเดินรถนั้น
  • จอดรถในช่องเดินรถนั้น

3. เมื่อผู้ขับขี่รถยนต์ให้สัญญาณ โดยยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง หมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร

  • จอดรถ
  • จะลดความเร็วของรถ
  • หยุดรถ
  • เลี้ยวขวา

4. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด

  • 60 เมตร
  • 120 เมตร
  • 150 เมตร
  • 100 เมตร

5. ก่อนเปลี่ยนช่องทางเดินรถหรือเลี้ยวรถ ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยวล่วงหน้าไม่น้อยกว่ากี่เมตร

  • 30 เมตร
  • 3 เมตร
  • 10 เมตร
  • 15 เมตร

6. ผู้ใดไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522

  • ผู้ขับขี่รถยนต์
  • ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
  • พนักงานจราจร
  • คนเดินเท้า

7. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร

  • เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร
  • ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
  • หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว
  • เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว

8. สัญญาณเสียงแตรใช้ได้เมื่อใด

  • ใช้ได้เมื่อจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  • ใช้ได้เมื่อรถคันหน้าขับช้า
  • ใช้ได้ตามสะดวก
  • ใช้ตลอดเวลา

9. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกะพริบสีแดง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
  • เตรียมตัวจอดรถบริเวณทางร่วมทางแยกนั้น
  • หยุดรถหลังเส้นแนวหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
  • เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว

10. ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าใด

  • ไม่น้อยกว่า 15 เมตร
  • ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
  • ไม่น้อยกว่า 10 เมตร
  • ไม่น้อยกว่า 60 เมตร

11. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านใดของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ

  • ด้านข้างและด้านหลัง
  • ด้านหลัง
  • ด้านหน้าและด้านหลัง
  • ด้านหน้า

12. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาด้านใดของเจ้าพนักงานจราจรต้องหยุดรถ

  • ด้านหลัง
  • ด้านหน้าและด้านหลัง
  • ด้านข้าง
  • ด้านหน้า

13. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกะพริบสีเหลือง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • หยุดรถหลังเส้นแนวหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
  • เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
  • ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
  • เตรียมตัวหยุดรถบริเวณทางร่วมทางแยกนั้น

14. สถานที่ใดห้ามใช้สัญญาณแตร

  • ท้องถนน
  • โรงพยาบาล
  • แยกไฟแดง
  • ป้ายรถเมล์

15. สถานที่ใดห้ามใช้สัญญาณแตร

  • โรงเรียน
  • แยกไฟแดง
  • ป้ายรถเมล์
  • ท้องถนน

16. ผู้ขับขี่รถยนต์ประสงค์จะใช้สัญญาณมือ จะต้องใช้สัญญาณมืออย่างไร

  • ให้สัญญาณมือด้วยมือขวาเท่านั้น
  • ให้สัญญาณมือได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
  • ไม่ต้องให้สัญญาณมือใด ๆ ทั้งสิ้น
  • ให้สัญญาณมือด้วยมือซ้ายเท่านั้น

ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ หมวดเครื่องหมายพื้นทาง

ฝึกทำข้อสอบ - เครื่องหมายบนพื้นทาง-ขอบทาง - ขับขี่ปลอดภัย

1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

  • เพิ่มความระมัดระวังแล้วหยุดรถ
  • เพิ่มความระมัดระวังเขตหยุดรับ-ส่ง
  • ขับรถให้ช้าลงถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางข้างหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นให้ทาง
  • เพิ่มความระมัดระวังแล้วจอดรถ

2. เครื่องหมายนี้ (เส้นสีขาว) หมายความว่าอย่างไร

  • เส้นชะลอความเร็ว
  • ให้เลี้ยวรถได้
  • ห้ามเลี้ยวรถ
  • ให้จอดรถได้

3. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลงและรีบเร่งเครื่องไปก่อน
  • ขับรถให้ช้าลง หากเห็นรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
  • ให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างรวดเร็ว
  • ให้ผู้ขับขี่ขับรถให้ช้าลงแล้วแซงได้

4. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างรวดเร็ว
  • ให้ผู้ขับขี่ ขับรถให้ช้าลง แล้ว แซงได้
  • ให้หยุดรถก่อนถึงแนวเส้นแนวหยุดทุกครั้ง
  • ให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลง และรีบเร่งเครื่องไปก่อน

ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซงห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด

5. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร

  • ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซงห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
  • ขับรถใหช้าลงให้เลี้ยวขวา
  • ขับรถไปทางด้านขวา ใหเ้ลี้ยวซ้าย
  • เพิ่มความระมัดระวังห้ามเลี้ยวซ้าย

ขับรถในช่องการจราจร ห้ามคร่อมเส้น แต่แซงได้

6. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร

  • เพิ่มความระมัดระวังและห้ามแซง
  • ขับรถในช่องการจราจร ห้ามคร่อมเส้น แต่แซงได้
  • เพิ่มความระมัดระวังห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
  • ขับรถให้ช้าลงขับรถคร่อมเส้นได้

7. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร?

  • ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
  • ห้ามขับรถตรงไปหรือเลี้ยวขวา
  • ให้ขับรถไปทางเดียวด้านซ้าย
  • เส้นทึบห้ามผ่านหรือคร่อมเส้นทึบ แต่เส้นประอาจแซงได้เมื่อเห็นว่าปลอดภัย

8. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร?

  • เขตหยุดรถ
  • เขตปลอดภัย หรือเกาะสี
  • เขตจอดรถ
  • เขตหยุดรับ-ส่ง

9. เครื่องหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร?

  • รถยนต์ทุกชนิด หยุดรถได้
  • รถยนต์ทุกชนิด จอดรถได้
  • รถยนต์ทุกชนิด กลับรถได้
  • ห้ามหยุดรถทุกชนิดภายในกรอบเส้นทแยง ยกเว้นรถที่หยุดรอเพื่อเลี้ยวขวา

10. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ขับรถไปทางเดียวด้านซ้าย ห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
  • ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
  • ห้ามขับรถตรงไปหรือเลี้ยวขวา ห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
  • สามารถเปลี่ยนช่องเดินรถหรือช่องจราจรหรือสามารถแซงได้

11. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • เขตหยุดรับ-ส่ง ได้ตลอดเวลา
  • ให้หยุดรถทับเส้นได้ตลอดเวลา
  • ให้หยุดรถก่อนถึงเส้นแนวหยุดหรือเส้นให้ทาง เพื่อให้คนเดินเท้าข้ามทางผ่านไปก่อน
  • ให้จอดรถทับเส้นได้ตลอดเวลา

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดป้ายบังคับ

1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ให้ขับรถแซงคันอื่นได้เลยในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ให้ทางแก่รถคันอื่นก่อน ในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ให้หยุดรถก่อนในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในเขตทางที่ติดตั้งป้าย

ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย

2. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย
  • ให้คนเดินเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ให้เฉพาะรถเก๋งเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ให้รถเข้าไปได้ในเขตที่ติดตั้งป้าย

ห้ามกลับรถไปทางขวา

3. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร

  • ห้ามกลับรถไปทางขวา
  • ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
  • ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ให้กลับรถไปทางขวา

ห้ามกลับรถไปทางซ้าย

4. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร

  • ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ห้ามกลับรถไปทางขวา
  • ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
  • ให้กลับรถไปทางขวา

ห้ามเลี้ยวซ้าย

5. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร

  • ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ให้กลับรถไปทางขวา
  • ห้ามเลี้ยวซ้าย
  • ห้ามกลับรถไปทางซ้าย

 

6. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้รถจักรยานจอด
  • ห้ามล้อเลื่อนลากเข็นจอด
  • ให้รถจักรยานยนต์จอด
  • ห้ามหยุด

 

7. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้รถทุกชนิดขับวนด้านขวาของวงเวียน
  • ให้ขับรถแทรกหรือตัดหน้ารถคันอื่นในวงเวียนได้
  • ให้ขับรถวนทางซ้ายของวงเวียนและหยุดให้รถในวงเวียนผ่านไปก่อน
  • ให้รถยนต์ขับรถทางเดียวด้านซ้าย

 

8. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ชิดซ้ายหรือชิดขวา
  • ให้ชิดขวาอย่างเดียว
  • ห้ามชิดซ้ายหรือชิดขวา
  • ให้ชิดซ้ายอย่างเดียว

 

9. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ใช้ความเร็วเกิน 50 กม./ชม.
  • ห้ามใช้ความเร็วเกิน 50 กม./ชม.
  • ให้ใช้น้ำหนักไม่เกิน 50 กก.
  • ห้ามใช้เสียงเกิน 50 เดซิเบล A

 

10. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • รถมีคนนั่งไม่น้อยกว่า 3 คน สามารถใช้ช่องเดินรถนี้ได้
  • รถมีคนนั่ง 1 คน เข้าไปในช่องเดินรถนี้ได้
  • ห้ามรถมีคนเกิน 3 คน เข้าไปในช่องเดินรถนี้
  • รถมีคนนั่ง 2 คน เข้าไปในช่องเดินรถนี้ได้

 

11. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ
  • ให้เลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ
  • ห้ามเลี้ยวขวาหรือกลับรถ
  • ให้เลี้ยวขวาหรือกลับรถ

 

12. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้รถยนต์จอด และหยุดรับ-ส่งได้ในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ห้ามเฉพาะรถผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ให้รถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย

 

13. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย
  • ให้เดินรถไปทางขวาเท่านั้น
  • ให้เดินรถทางเดียวไปทางซ้าย
  • ห้ามเดินรถไปทางขวา

 

14. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามรถทุกชนิดน้ำหนักเกิน 10 ตันผ่าน
  • ให้รถทุกชนิดกว้างเกินกำหนดผ่าน
  • ให้รถทุกชนิดน้ำหนักเกิน 10 ตันผ่าน
  • ห้ามรถทุกชนิดยาวเกินกำหนดผ่าน

 

15. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามจอดรถทุกชนิด
  • ให้หยุดรถทุกชนิด
  • ห้ามหยุดรถทุกชนิด
  • ให้จอดรถทุกชนิด

 

16. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ต้องหยุดรถตรงตำแหน่งป้ายและให้รถที่กำลังสวนทางมาผ่านไปก่อน
  • ให้ลดความเร็วแล้วขับรถเบี่ยงไปทางด้านซ้าย
  • ให้ลดความเร็วแล้วขับรถเบี่ยงไปทางด้านขวา
  • ห้ามขับรถยนต์ผ่าน

 

17. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้เลี้ยวซ้าย
  • สุดเขตบังคับ
  • ห้ามเลี้ยวขวา
  • ให้ใช้ความเร็ว

 

18. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ขับรถเข้าช่องเดินรถยนต์และรถจักรยานยนต์
  • ห้ามแซงล้ำเข้าไปในช่องเดินรถประจำทาง
  • ให้ขับรถตรงไปหรือเลี้ยวขวา
  • ห้ามขับรถตรงไปหรือเลี้ยวขวา

 

19. เครื่องหมายนี้ หมายความว่า

  • เฉพาะคนเดิน
  • ห้ามคนผ่าน
  • ทางข้าม
  • บริเวณคนข้ามถนน

 

20. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามรถยนต์จอด แต่หยุดรับ-ส่งได้ในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ให้รถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ให้รถจักรยานยนต์ผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าออก

 

21. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ใช้เสียงได้
  • ห้ามใช้เสียง
  • ห้ามจอดรถ
  • ให้หยุดรถ

 

22. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ให้ขับรถแซงคันอื่นได้เลย ในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ให้ทางแก่รถคันอื่นก่อน ในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
  • ห้ามหยุดรถก่อน ในเขตที่มีเครื่องหมายนี้

 

23. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางขวา
  • ให้เปลี่ยนช่องเดินรถไปทางซ้าย
  • ห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางซ้าย
  • ให้เปลี่ยนช่องเดินรถไปทางขวา

 

24. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร?

  • ห้ามรถพ่วงทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ให้รถพ่วงทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ห้ามรถบรรทุกทุกชนิดผ่านเข้าออกในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
  • ให้รถบรรทุกผ่านเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย

ข้อสอบใบขับขี่ เกี่ยวกับป้ายเตือน

ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังทำงาน

1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

  • ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังทำงาน อาจมีวัสดุอุปกรณ์วางบนเส้นทางจราจร
  • ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังสำรวจทาง
  • ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังเครื่องจักรกำลังทำงาน
  • ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังสำรวจสิ่งก่อสร้าง

2. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร

  • ควรขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังทางข้างหน้ากำลังมีงานสำรวจอยู่บนผิวจราจรหรือทางเดินรถ
  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวังคนกำลังทำงาน
  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวังเครื่องจักรกำลังทำงาน
  • ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวังสำรวจสิ่งก่อสร้าง

เครื่องจักรกำลังทำงาน

3. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร

  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีคนทำงาน
  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีรถไฟผ่าน
  • ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าสำรวจทาง
  • ควรขับรถให้ช้าลง และระมัดระวัง เครื่องจักรกำลังทำงาน

ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านซ้าย

4. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร

  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ
  • ขับรถให้ช้าลงเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางลงลาดชัน
  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางขึ้นลาดชัน
  • ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านซ้าย

ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านขวา

5. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร

  • ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางขึ้นลาดชัน
  • ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านขวา
  • ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางลงลาดชัน
  • ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดป้ายแนะนำ

1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร?

  • ที่กลับรถ
  • ที่ห้ามกลับรถ
  • ที่ห้ามแซง
  • เริ่มต้นทางด่วน (ทางหลวงพิเศษ)

2. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

  • ทางข้างหน้ามีที่กลับรถสามารถกลับรถได้บริเวณที่มีป้าย “จุดกลับรถ”
  • ห้ามกลับรถ
  • กลับรถได้เฉพาะรถยนต์
  • ให้เลี้ยวซ้าย

3. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

  • ที่กลับรถ
  • ขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังคนข้ามทาง ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามทางควรหยุดให้คนเดินข้ามทาง
  • ที่ห้ามคนข้ามถนน
  • ที่สำหรับคนพิการ

สามารถดูเครื่องหมายจราจรเพิ่มเติมได้ที่ ป้ายจราจร มีกี่ประเภท มือใหม่รู้ไว้ก่อนออกถนนใหญ่

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดมารยาทและจิตสำนึก

1.การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรควรปฏิบัติอย่างไร

  • ให้รถทางขวามือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
  • ให้รถทางซ้ายมือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
  • ให้รถที่เข้าวงเวียนและจะเลี้ยวซ้ายไปก่อน
  • ให้รถที่เข้าวงเวียนและจะตรงไปให้ไปก่อน

2. การขับรถเลี้ยวบริเวณทางแยกที่มีช่องจราจรมากกว่า 2 ช่องทาง ข้อใดถูกต้อง

  • เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซ้ายหรือขวาขณะอยู่ในทางเลี้ยว
  • ขับคร่อมช่องจราจรเพื่อตีวงได้กว้างขึ้น
  • ขับอยู่ในช่องจราจรเดิมตั้งแต่เริ่มเข้าทางแยกจนเลี้ยวเสร็จสิ้น
  • ขับในช่องจราจรซ้ายสุดแล้วเปลี่ยนไปช่องจราจรด้านขวาในขณะเลี้ยว

3. ในกรณีที่ท่านขับรถผ่านซอยที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมากควรปฏิบัติอย่างไร

  • บีบแตรหรือให้สัญญาณไฟเตือนรถที่จะออกจากซอยก่อนขับผ่านไป
  • เปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
  • พยายามขับให้ชิดคันหน้าเพื่อไม่ให้รถในซอยแทรกออกมา
  • ขับรถผ่านซอยด้วยความเร็วเพื่อส่งสัญญาณว่าขอไปก่อน

4. ทศนคติและจิตสำนึกในการขับรถอย่างปลอดภัยของผู้ขับรถคืออะไร

  • ขับรถช้า ใจเย็น
  • ขับรถเก่งคล่องแคล่ว
  • ขับรถอย่างมีสติเคร่งครัดวินัยจราจรแสดงออกถึงมารยาทและน้ำใจ
  • ขับรถดีไม่เกิดอุบัติเหตุ

5. สิ่งใดที่ผู้ขับรถไม่ควรทำเมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียวให้ขับเคลื่อนรถไปได้

  • ค่อยๆ เคลื่อนรถออกโดยทิ้งช่วงห่างกับคันหน้าพอสมควร
  • ชะลอให้รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าเคลื่อนออกไปก่อน
  • ตรวจสอบรถในทางแยกอื่นที่อาจวิ่ง ออกมาก่อนที่จะขับ เข้าสู่ทางแยกด้านหน้า
  • บีบแตรเร่งรถคันหน้าให้เคลื่อนตัวออกโดยเร็ว

ข้อสอบหมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย

1.การขับรถขณะฝนตก ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ

  • เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
  • เปิดที่ปัดน้ำฝน
  • ใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
  • ลดความเร็วของรถลงกว่าปกติ

2. เมื่อเกิดรถเสียควรปฏิบัติอย่างไร

  • จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
  • นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
  • เผาป่าข้างทางหากเป็นกลางคืน
  • นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน

3. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ

  • สีแดง
  • สีเขียว
  • สีเหลือง
  • สีฟ้า

4. การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด

  • นิ้วมือทั้งห้าจับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
  • นิ้วมือทั้งห้ากำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
  • นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
  • ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว

5. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร

  • เหยียบเบรกทันทีแล้วค่อยๆ ออกตัวเร่งความเร็วใหม่
  • ถอนคันเร่ง เหยียบเบรกเพื่อใช้เกียร์ต่ำ
  • ถอนคันเร่งจับพวงมาลัยให้มั่น ประคองรถต่อไป
  • ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป

ข้อสอบใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เรื่องการบำรุงรักษารถ

1. แบตเตอรีควรมีฉนวนหุ้มที่ขั้วแบตเตอรี่ขั้วใด

  • ขั้วบวก
  • ขั้วลบ
  • ไม่จำเป็นต้องมีฉนวนหุ้ม
  • หุ้มทั้งสองขั้ว

2. สาเหตุไฟไม่ชาร์จเข้าแบตเตอรีเกิดจากอะไร

  • เปิดเครื่องเสียงมากเกินไป
  • ฉนวนหุ้มขั้วแบตเตอรี่หลุด
  • เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวมากเกินไป
  • ไดชาร์จชำรุดหรือสายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด

3. สาเหตุรถสตาร์ตไม่ติดเกิดจากสาเหตุใด

  • กรองอากาศตัน
  • น้ำมันเบรกหมด
  • น้ำในหม้อน้ำแห้ง
  • แบตเตอรีไม่มีไฟ

4. การตรวจเช็กแบตเตอรีแบบง่ายๆ ว่ามีไฟปกติหรือไม่ กระทำได้อย่างไร

  • บีบแตรและฟังเสียงว่าปกติหรือเบาลง
  • ออกรถ 2-3 เมตร แล้วทดสอบเบรก
  • เหยียบคลัตช์และเข้าเกียร์ให้ครบ
  • หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้ายและขวา

5. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด

  • เมื่อมีหมอก ฝน ฝุ่น ควัน ในทางเดินรถ
  • เมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
  • เมื่อจะกลับรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
  • เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ

วิธีต่อใบขับขี่ 2568

ต่อภาษีออนไลน์ 2568

เช็กใบสั่งจราจร ผ่านแอปทางรัฐ

 


Booking.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ